ททท.พระนครศรีอยุธยา ผนึกกำลัง GAC AION และ ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว จัดกิจกรรม คาราวานรถยนต์ท่องเที่ยวรักษ์โลก @พระนครศรีอยุธยา – สระบุรี ระหว่างวันที่ 16 -18 ส.ค.67 ภายใต้แนวคิด “Go Green เล่าเรื่องเมืองเก่า เติมเต็มชีวิตใหม่ เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง” Y SO AMAZING TRIP

TOURISM : ททท.พระนครศรีอยุธยา ผนึกกำลัง GAC AION และ ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว จัดกิจกรรม คาราวานรถยนต์ท่องเที่ยวรักษ์โลก @พระนครศรีอยุธยา – สระบุรี ระหว่างวันที่ 16 -18 ส.ค.67 ภายใต้แนวคิด “Go Green เล่าเรื่องเมืองเก่า เติมเต็มชีวิตใหม่ เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง” Y SO AMAZING TRIP
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ GAC AION ยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานใหม่ BEV สมรรถนะเยี่ยม รุ่น AION Y Plus ร่วมจัดทริปนี้โดยใช้เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง 2 จังหวัดท่องเที่ยวชื่อดัง พระนครศรีอยุธยา – สระบุรี ภายใต้แนวคิด “Go Green เล่าเรื่องเมืองเก่า เติมเต็มชีวิตใหม่ เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง” Y SO AMAZING TRIP โดยกิจกรรมนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 18 ส.ค. 2567 ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีนักท่องเที่ยวรักษ์โลกให้ความสนใจ ขานรับเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางบรรยากาศครอบครัว เป็นกันเอง
โดยวันแรกของการเดินทาง คาราวานรถยนต์ท่องเที่ยวรักษ์โลก ปล่อยขบวนจากจุดสตาร์ทแรกที่ โชว์รูม Aion สาขาพัฒนาการ กรุงเทพฯ มีนักท่องเที่ยวรักษ์โลก ต่างเดินทาง มาเข้าร่วมกิจกรรม ในการปล่อยตัว กันอย่างคับคั่ง โดยได้รับการต้อนรับจากน้องๆ Aion และทีมงานเที่ยวไทย ฯลฯ จัดเสิร์ฟอาหารเช้า กาแฟ ชา โกโก้ พร้อมขนมขบเคี้ยว เพื่อเติมพลังก่อนออกเดินทาง
ทั้งนี้ ก่อนการออกเดินทาง ผู้บริหาร รถยนต์ไฟฟ้า Aion นายจัสติน เฉา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลล์ ประเทศไทย จำกัด ยังได้อวยพรให้การเดินทางในครั้งนี้ มีความปลอดภัย และสนุกสนาน ตลอดทริป ทั้ง 3 วัน
จุดหมายแรก ที่คาราวานยานยนต์ รักษ์โลกเดินทางไปเยือน คือ ศาลากลางหลังเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้รับการต้อนรับ
จาก นายณัฐปคัลภ์ อัครวิชญ์ ผอ.ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา – สระบุรี พร้อมร่วมถ่ายภาพหมู่ก่อนออกเดินทาง ขับรถชมเมืองมรดกโลกอยุธยา มุ่งหน้าสู่การทำกิจกรรม CRS “เพนียดช้าง” ด้วยการให้อาหารและชมช้างอาบน้ำ Highlight เด็ดชมความน่ารักของลูกช้างแฝดต่างเพศ คู่แรกของโลก
จากนั้น รับประทานอาหารกลางวัน ระดับรางวัลมิชลิน ร้านอาหารสุริยันจันทรา พร้อมล่องเรือไม้ โบราณ ทำบุญไหว้พระสัมผัส วิถีชีวิตเมืองเก่า ชมความสวยงาม และความสมบูรณ์ของแม่น้ำน้อย ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ พบกับเรื่องราวประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา ไหว้พระขอพร หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พระเกจิอาจารย์ดัง และ เดินทางต่อ ไปยัง วัดบางปลาหมอ เพื่อ สักการะหลวงพ่อสุ่น พระเกจิอาจารย์ที่แก่กล้าในด้านวิทยาคม และวิชารักษาคนป่วยไข้
ช่วงบ่าย ทางคณะคาราวานรักษ์โลก ได้เข้าเช็คอิน ที่ โรงแรม คลาสิค คามิโอ และพักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนลงมาทานอาหารค่ำ ชมการแสดงสาธิตการทำแป้งโรตี และการดึงสายไหมในตำนาน ลูกชายบังเปีย ร้านดังเจ้าแรกอยุธยา ชมการแสดงสาธิตไหว้ครูมวยไทย ทักษะศิลปะป้องกันตัว จากค่ายมวยศิษย์ป๋าหรั่ง พร้อมฟังเสียงเพราะๆ จาก นักร้องศิลปินรับเชิญ “เอธิชา”
วันที่ 2 ของทริปการเดินทาง หลังจากทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง คาราวาน รักษ์โลก จึงออกเดินทาง สู่ หมู่บ้านบางปะหัน เพื่อเรียนรู้วิธีการทำงอบจากใบลาน ตามแบบฉบับวิถีชาวบ้าน
จากนั้น จึงออกเดินทางต่อ เพื่อไปสักการะพระใหญ่ที่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และเดินทางต่อไปยังสวนผักเกษตรอินทรีย์ครูสรรเสริญ เรียนรู้การปลูกผักอินทรีย์ ก่อนรับประทานอาหารกลางวัน ที่ครัวน้ำตก
ช่วงบ่าย คาราวานรักษ์โลก จึงออกเดินทางไปทำกิจกรรมที่ฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์ก อันเป็นองค์ความรู้ ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานไว้ ให้กับพวกปวงชนชาวไทย ท่ามกลางความสนอกสนใจ ของสมาชิกคาราวานรักษ์โลก พลบค่ำจึงเข้าที่พัก ที่ เซอร์เจมส์รีสอร์ท จังหวัดสระบุรี ดินเนอร์ปาร์ตี้ฟังดนตรีสนุกสนาน พร้อมพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 3 ของทริปการเดินทาง หลังจากทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขบวนคาราวานรักษ์โลก ซึ่ง มีนักท่องเที่ยวต้นแบบ ให้ความสนใจ และร่วมออกเดินทางบนเส้นทาง “Green Road Trip” ได้ออกเดินทางสู่ “หอมนสิการ”
ซึ่ง “หอมนสิการ” นับเป็น อันซีนสระบุรี ที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ อันเปี่ยมศรัทธา “มรรคาของพระพุทธเจ้า” โดย “หอมนสิการ” ตั้งอยู่ที่ริมเขาพระพุทธบาทน้อย ต.สองคอน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จัดสร้างขึ้นตามแนวคิดของ “อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล” โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อ
1.เทิดพระเกียรติแสดงความนอบน้อมกตัญญู ถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
2.ประดิษฐานพระบรมโลกนาถ พระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาในต่างวาระรวม 23 พระองค์ และภาพปักพระบรมโลกนาถ
3.เป็นสถานที่สำหรับฝึกสมาธิเบื้องต้น และเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา
4.จัดแสดงนิทรรศการสื่อผสม “Journey to the Life of Buddha” วิถีแห่งความเสียสละกว่าที่พระพุทธองค์จะบรรลุเป็นพระพุทธเจ้า
ปิดท้ายทริปด้วยการ เยือน “ตลาดหัวปลี” ที่ตั้งอยู่ในบริเวณของศูนย์ OTOP คอมเพล็กซ์ บน เนื้อที่ 15 ไร่ ตำบลพุแค อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี นับเป็นตลาดชุมชนของชาวบ้านชาวสระบุรี มีบรรยากาศสบายๆ ร่มรื่น พร้อมจุดถ่ายรูป Check In มากมายหลายจุดด้วยกัน มีทั้งบริเวณของต้นไม้ สวนไผ่ ที่สำคัญเลยคือมีสินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์จากชาวบ้าน ทั้ง ของกิน ของใช้ ผักพื้นบ้าน และผักปลอดสารพิษต่างๆ ให้เราได้เดินช้อปกันเพลิดเพลินใจ
ตลาดหัวปลี มีจุดท่องเที่ยวมากมาย ทั้ง โซนของอาหาร ที่มีทั้ง อาหารคาวหวาน ขนมพื้นบ้านที่หาทานยาก รวมไปถึงของใช้ต่างๆ ใครที่ซื้ออาหารมาแล้ว ก็มีบริเวณที่นั่งทานอยู่กลางสวนไผ่ มีความ ร่มรื่นมากๆ อีกพร้อมจัดแคมเปญ ให้กับนักท่องเที่ยว ซื้อไป เต้นไป รับต้นไม้กลับบ้าน หรือของฝั่งอื่นๆกลับบ้าน ไฮไลท์เด็ด ที่ไม่ควรพลาดอีกอย่าง คือ การแช่เท้า ด้วยน้ำสมุนไพร หรือ การทำสปาเท้า โดยใช้น้ำสมุนไพรไทย ทำให้เกิดความสดชื่น ดับกลิ่นเท้าอย่างน่าอัศจรรย์นั่นเอง รวมทั้งการชม น้องกระบือ ดำน้ำแหม..น่ารักน่าชั่งเสียนี่กระไร
หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวต้นแบบ จึงได้เดินเที่ยวจับจ่าย ใช้สอย ซื้อของกินของใช้ ก่อนเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *